ข้อมุลเที่ยวอินเดีย : วัดรุมเต็ก ศูนย์ธรรมจักรสิกขิม

robot
โดย robot

วัดรุมเต็ก ศูนย์ธรรมจักรสิกขิม

วัดรุมเต็ก (Rumtek Monastery) หรือ ศูนย์ธรรมจักร (Dharmachakra Centre) เป็นสถานที่ศึกษาและปฏิบัติธรรม เป็นวัดศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในสิกขิม ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 1,550 เมตร ห่างจากกังต็อก 24 กิโลเมตร
ประวัติวัดรุมเต็ก
วัดรุมเต็ก เดิมเคยเป็นวัดหลักของนิกายกากยู (Kagyu) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดย การ์มาปา วังชุก ดอร์เจ ที่ 9 สำหรับใช้เป็นสถานที่พำนักอาศัยของผู้สืบเชื้อสาย Karma ในสิกขิม เมื่อตัววัดถูกทำลายลง พื้นที่จึงปล่อยทิ้งร้างไป จวบจนกระทั่งพระสังฆราชการ์มาปาที่ 16 ซึ่งเป็นชาวทิเบต ได้ลี้ภัยมายังสิกขิมในปี ค.ศ. 1959 เนื่องจากกองทัพจีนบุกไปยึดทิเบต พระองค์จึงตัดสินใจสร้างวัดรุมเต็กขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เพื่อใช้เป็นที่พำนักในการลี้ภัยจากกองทัพจีน โดยได้รับความช่วยเหลือจากราชวงศ์ของสิกขิมและรัฐบาลอินเดีย ส่วนที่พระองค์เลือกบริเวณนี้ ก็เพราะสถานที่นี้มีลักษณะภูมิประเทศที่ดี เช่น มีลำธาร มีภูเขาอยู่ด้านหลัง มีภูเขาหิมะอยู่ด้านหน้า และมีแม่น้ำอยู่ด้านล่างนั่นเอง หลังจากใช้เวลานานถึง 4 ปี การก่อสร้างวัดรุมเต็กก็เสร็จสิ้น โดยถือเป็นวัดขนาดใหญ่ที่สุดที่ก่อสร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของทิเบตเลยทีเดียว (ปัจจุบันเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในสิกขิม) หลังจากนั้นไม่นาน พระสังฆราช การ์มาปาที่ 16 ก็ได้สถาปนาวัดนี้เป็น “ศูนย์ธรรมจักร” (The Dharmachakra Center) เพื่อฝึกฝนและปฏิบัติตนของชาวพุทธรวมทั้งเผยแพร่ศาสนาคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มีการขนสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระธาตุพระพุทธเจ้ามาจากวัด Tsurphu ใน ทิเบตมาประดิษฐานที่นี่ ในวันปีใหม่ของทิเบตในปี 1966 มีการสถาปนาวัดนี้ให้เป็นศูนย์กลางธรรมจักร ซึ่งเป็นสถานที่ศึกษาและปฏิบัติธรรม เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของสิกขิม

วัดรุมเต็กมีทั้งหมด 4 ส่วน ได้แก่ Main Temple, The Golden Stupa, Benefits of Veneeration และ The Stupa Walkway (Koral)
1. วิหารวัดรุมเต็ก (Main Temple) : ด้านในจะมีห้องบูชาที่ตกแต่งอย่างประณีต อีกทั้งยังมีธงผ้าไหม ผ้าทังก้า ภาพวาดทางศาสนา ต้นฉบับเกี่ยวกับคำสั่งสอนของศาสนา (Kangyur) ที่แปลจากภาษาสันสกฤต มาเป็นภาษาทิเบต และคำอธิบายเกี่ยวกับศีล (Tengyur) ทั้งหมด 255 เล่ม รวมถึงพระพุทธรูปสูง 10 ฟุต ที่ขนาบข้างไปด้วยพระสารีบุตรและพระโมคลัลลา อันเป็นพระอัครสาวกองค์สำคัญของพระพุทธเจ้า และบังลังก์ศักดิ์สิทธิ์ของ “เกลวา การ์มาปา” สำหรับให้ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินหรือพระลามะผู้มีบุญนั่งด้วย
2. สถูปทอง (Golden Stupa) : สถูปแห่งนี้มีความสำคัญ เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุล้ำค่าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากร่างของพระสังฆราช “เกลวา การ์มาปา ที่ 16” ปกติจะใช้ประกอบพิธีบูชาผู้สืบเชื้อสายมาจากพระสังฆราชของพวกเขา ซึ่งเริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1982 (ห้ามถ่ายรูป)
3. แท่งหินสลักคำสอนของพระพุทธเจ้า (Benefits of Veneration) : เป็นแท่งหินสลักคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่ตรงกลางลานวัด
4. เส้นทางแสวงบุญวัดรุมเต็ก (The Stupa Walkway) : เป็นเส้นทางแสวงบุญที่อยู่ด้านหลังกำแพงวัดรุมเต็ก ซึ่งจะมีสถูปสูง 35 ฟุต ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อเป็นการขจัดอุปสรรคในการกลับมาเกิดใหม่ของพระสังฆราชการ์มาปาที่ 16 ภายในมีต้นฉบับที่เขียนด้วยลายมือในสมัยโบราณและรูปสลักด้านหน้าของเทวดา Raksha Todtreng อยู่ ทั้งนี้ระหว่างทางก็จะธง 5 สี แขวนเรียงราย เพื่อสวดอ้อนวอนให้เกิดสันติภาพในโลก ความโชคดี ความเจริญ และ อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต 
สัญลักษณ์กงจักรและกวางสีทอง : ตามตำนานเล่าว่า หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว ขณะที่พระองค์กำลังนั่งสมาธิอยู่นั้น พระพรหมและพระอินทร์ก็ได้เสด็จลงมาหาพระพุทธเจ้า เพื่อให้พระพุทธเจ้าสอนธรรมะให้ เมื่อเป็นเช่นนี้ พระพุทธเจ้าจึงบอกว่าจะหมุนวงล้อแห่งธรรมนี้ 3 ครั้ง ทว่าในเวลานั้นเอง ก็ได้มีกวาง 2 ตัว ปรากฎตัวขึ้นที่ป่าใกล้ๆ และจ้องมองมาที่วงล้อมนั้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการหมุนกงล้อแห่งธรรมในครั้งแรก จึงได้มีการสร้างวงล้อแห่งธรรมและกวาง 1 คู่อยู่บนหลังคาวัดทุกๆ วัด โดยกงล้อจะเป็นสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนกวางก็แทนพระพรหมและพระอินทร์ซึ่งเป็นผู้เรียนรู้ ทั้งนี้การตั้งท่าของกวางจะหมายถึง การรับฟัง ส่วนการจ้องมองจะหมายถึง การแสดงความสนใจในธรรมะ

หัวข้อน่าอ่าน