ย้อนเวลาสู่เมืองโรมันโบราณในอิตาลี สัมผัสมรดกแห่งอารยธรรม

ย้อนเวลาหาอดีต สำรวจเมืองโบราณโรมันในอิตาลี

ประเทศอิตาลีนับเป็นแหล่งรวมมรดกทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เมืองโบราณโรมัน" ที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และร่องรอยของอารยธรรมที่มีอายุกว่าพันปีเอาไว้อย่างดีเยี่ยม เมืองเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แต่ยังเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้ชีวิต ความเชื่อ และความรุ่งเรืองของจักรวรรดิโรมันในอดีตอย่างลึกซึ้ง การเดินทางสำรวจเมืองโบราณโรมันจึงเปรียบเสมือนการย้อนเวลากลับไปยังยุคที่อารยธรรมตะวันตกกำลังเรืองอำนาจ

เมืองโบราณปอมเปอี (Pompeii)

เมืองปอมเปอีตั้งอยู่ใกล้กับเมืองนาโปลีทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นหนึ่งในเมืองโบราณโรมันที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ.79 ที่ภูเขาไฟเวซูเวียสปะทุอย่างรุนแรงและกลืนเมืองนี้ไปภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เถ้าถ่านและลาวาที่ถาโถมลงมาได้เก็บรักษาสภาพเมืองไว้ราวกับหยุดเวลา ทำให้โบราณสถานเกือบทั้งหมดคงสภาพดั้งเดิมไว้ได้อย่างน่าทึ่ง

นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจถนนโบราณที่ปูด้วยหิน บ้านเรือนของขุนนาง โรงอาบน้ำ โรงละคร และจัตุรัสกลางเมือง (Forum) ที่ยังคงสภาพคล้ายยุคโรมันโบราณ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถชมภาพจิตรกรรมฝาผนัง เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และร่างของผู้เสียชีวิตที่ถูกหล่อขึ้นจากช่องว่างในชั้นหินเถ้าถ่าน ซึ่งให้ภาพสะเทือนใจถึงหายนะที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตา

ขอบคุณภาพจาก / canva by edella 

เส้นทางขึ้นเขายอดนิยม

เมืองโบราณเฮอร์คิวลาเนียม (Herculaneum)

เฮอร์คิวลาเนียมเป็นเมืองเล็กแต่หรูหราที่ตั้งอยู่ริมทะเล และถูกภูเขาไฟเวซูเวียสกลืนหายไปในเหตุการณ์เดียวกับปอมเปอี อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างสำคัญคือเมืองนี้ถูกคลุมด้วยลาวาเหลวหนาแน่น ทำให้โครงสร้างไม้ ภาพจิตรกรรม และของใช้ภายในบ้านได้รับการอนุรักษ์ในสภาพที่สมบูรณ์ยิ่งกว่า

การเดินชมเฮอร์คิวลาเนียมจึงเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนเข้าใจถึงวิถีชีวิตของชนชั้นสูงโรมันอย่างลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของความมั่งคั่ง รสนิยมทางศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่ล้ำสมัยในยุคนั้น บ้านบางหลังมีห้องน้ำภายใน การตกแต่งด้วยภาพวาดเฟรสโก้ และสวนหย่อมกลางบ้านที่ยังเห็นโครงสร้างชัดเจน

ขอบคุณภาพจาก / canva by edella 

เมืองออสเตีย อันติกา (Ostia Antica)

เมืองท่าของกรุงโรมโบราณที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไทเบอร์ ออสเตีย อันติกาเคยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการขนส่งสินค้าสำคัญของจักรวรรดิโรมัน ปัจจุบันเมืองนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สามารถเดินชมโครงสร้างต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด

คุณจะได้พบกับซากโรงละครที่ยังสามารถใช้งานได้ ตลาด ร้านค้า บ้านเรือน ห้องอาบน้ำสาธารณะ และศาลเจ้าหลายแห่ง สิ่งที่น่าสนใจคือการจัดวางผังเมืองที่เป็นระบบ ถนนเรียงตรง ซุ้มประตู และท่อส่งน้ำที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของโรมันยุคนั้น

ขอบคุณภาพจาก / canva by Stock Photos 2000

เมืองโบราณโรม (Roman Forum และ Colosseum)

หัวใจของอารยธรรมโรมันโบราณต้องยกให้กรุงโรม เมืองหลวงของจักรวรรดิโรมัน และเป็นศูนย์กลางอำนาจทั้งทางการเมือง การทหาร ศาสนา และวัฒนธรรม Roman Forum คือพื้นที่กลางเมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของวัด เสา หอประชุม และโค้งประตูชัยที่ยิ่งใหญ่ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ว่าราชการ ตลาด และเวทีการปราศรัยของเหล่าวุฒิสมาชิก

ถัดจากฟอรัมเพียงไม่กี่ก้าว คือ Colosseum หรือแอมฟิเธียเตอร์ขนาดมหึมาที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่แสดงการต่อสู้ระหว่างกลาดิเอเตอร์กับสัตว์ป่าและนักโทษ โดยมีประชาชนเข้าชมมากถึง 50,000 คนในแต่ละรอบ ปัจจุบัน Colosseum ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของอิตาลีและประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ขอบคุณภาพจาก / canva by aesuk80asc

เมืองเวโรนา (Verona)

เมืองเวโรนาไม่ได้มีดีแค่เรื่องราวความรักของโรมิโอและจูเลียต แต่ยังเป็นเมืองโบราณโรมันที่เต็มไปด้วยโบราณสถานอันทรงคุณค่า Arena di Verona สนามกีฬาโรมันที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 1 ยังคงใช้งานเป็นเวทีการแสดงโอเปร่าและคอนเสิร์ตกลางแจ้งในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีสะพานโบราณ Ponte Pietra ที่ทอดข้ามแม่น้ำอดิเจ สะท้อนถึงความสามารถทางวิศวกรรมโบราณที่ยังคงแข็งแรงมาหลายร้อยปี เมืองเวโรนายังมีซากอาคารโรมันหลายแห่ง ผังเมือง และถนนโบราณที่ยังคงกลิ่นอายของอดีตไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

ขอบคุณภาพจาก / canva by chiara zeni

การเดินทางสำรวจเมืองโบราณโรมันในอิตาลีไม่เพียงแต่เปิดโลกของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่ยังช่วยให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจรากฐานของอารยธรรมตะวันตกอย่างลึกซึ้ง ทุกเมืองโบราณล้วนมีเรื่องราวเฉพาะตัวที่เชื่อมโยงกับยุคทองของโรมัน ไม่ว่าจะเป็นปอมเปอีที่หยุดเวลาไว้ด้วยภัยพิบัติ หรือโรมที่ยังคงยืนหยัดเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์เมืองโบราณโรมันในอิตาลีจึงไม่ใช่แค่แหล่งท่องเที่ยว แต่คือประตูสู่ความเข้าใจอดีต ที่พร้อมให้ผู้มาเยือนซึมซับเรื่องราวผ่านสายตาและหัวใจของตนเอง

“เมืองปอมเปอีตั้งอยู่ใกล้ นาโปลี ทางตอนใต้ของอิตาลี หากคุณสนใจเดินทางเส้นทางนี้ คลิกดูโปรแกรม ทัวร์อิตาลีเส้นทางตอนใต้”