ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกาใหม่ "Visa Integrity Fee" ใครจะไปเมกาต้องรู้ 1 ต.ค. 2025!
สวัสดีค่ะทุกคนที่กำลังวางแผนจะไปเยือนสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะไปเที่ยว, ไปเรียน, หรือไปทำงาน! มีข่าวสำคัญที่ต้องอัปเดตให้ทราบกันค่ะ นั่นคือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2025 เป็นต้นไป สหรัฐอเมริกากำลังจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมใหม่ที่มีชื่อว่า "Visa Integrity Fee" ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงกับงบประมาณและแผนการเดินทางของคุณค่ะ
ข่าวนี้สำคัญมาก ๆ สำหรับใครที่กำลังจะยื่นขอวีซ่าสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว (B1/B2), วีซ่านักเรียน (F-1), วีซ่าทำงาน (H1B) หรือวีซ่าประเภทอื่น ๆ ก็ตาม เรามาเจาะลึกรายละเอียดของค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกาใหม่นี้กันค่ะ ว่าคืออะไร ทำไมถึงต้องมี และเราต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกการเดินทางจะเป็นไปอย่างราบรื่น!
Visa Integrity Fee คืออะไร?
เป็น ค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์ ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะเก็บ เมื่อออกวีซ่าชั่วคราว ทุกครั้ง (ต่อหนึ่งเล่ม/ครั้งที่ออก) โดยเก็บ นอกเหนือ จากค่าวีซ่าปกติ (MRV) และค่าตามตาราง Reciprocity (ถ้ามี) จุดประสงค์เพื่อ สนับสนุนงบดูแลระบบและการบังคับใช้กฎหมายด้านตรวจคนเข้าเมือง ตามที่กฎหมายระบุ
สำคัญ: ขณะนี้หน่วยงานยืนยันว่า ไม่มีการยกเว้นค่าธรรมเนียม (no waiver) สำหรับกลุ่มทั่วไป และรายละเอียดเชิงปฏิบัติ (เช่น ช่องทางชำระ/ใบเสร็จ) จะประกาศใกล้วันเริ่มใช้
มีผลเมื่อไหร่ และใครต้องจ่าย?
-
เริ่มเก็บ: ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2025 เป็นต้นไป (ตรงกับวันเปิดปีงบประมาณสหรัฐฯ)
-
ผู้ที่ต้องจ่าย: ผู้ที่ ต้องขอวีซ่าชั่วคราว ทุกหมวด (เช่น B1/B2, F/M, J, H, L, O, P, R, TN และผู้ติดตาม) เมื่อวีซ่า “ผ่าน” และกำลังจะถูกพิมพ์/ติดลงเล่มพาสปอร์ต
-
ผู้ที่ “ไม่” ต้องจ่าย:
-
ผู้เดินทางด้วย VWP/ESTA (ส่วนใหญ่ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ฯลฯ) ที่เข้าอเมริกาสั้น ๆ ตามสิทธิ ไม่เกี่ยวกับวีซ่า จึง ไม่ต้องจ่าย ค่าธรรมเนียมนี้
-
พลเมืองแคนาดา ซึ่งส่วนใหญ่เข้าประเทศโดยไม่ต้องทำวีซ่าท่องเที่ยว-ธุรกิจ
(อย่างไรก็ดี ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ESTA ตามอัตราปัจจุบันของ CBP หากใช้ VWP)
-
สำหรับผู้อ่านชาวไทย: ประเทศไทยยังไม่อยู่ใน VWP ผู้ที่ไปท่องเที่ยว/ติดต่อธุรกิจสหรัฐฯ จึงมักขอ B1/B2 และจะ อยู่ในกลุ่มต้องจ่าย Visa Integrity Fee เมื่อวีซ่าผ่านตั้งแต่ 1 ต.ค. 2025 เป็นต้นไปค่ะ/ครับ.
ต้องจ่ายเท่าไหร่แน่ ๆ ? จะปรับขึ้นได้ไหม?
-
ขั้นต่ำ 250 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อการ “ออกวีซ่า” 1 ครั้ง (ไม่ใช่ต่อปี)
-
ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2026 กฎหมายเปิดทางให้ ปรับตามเงินเฟ้ออัตโนมัติ โดยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ออกระเบียบกำกับ.
คืนเงินได้ไหมถ้าเดินทางถูกต้องตามกฎ?
ข้อความในบางสรุปชี้ว่า “อาจคืนได้” หากปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้วีซ่าอย่างครบถ้วน แต่ แนวทางปฏิบัติยังไม่ชัดเจน (เช่น ขั้นตอน/กำหนดเวลาคืน) ณ วันที่เขียนบทความ (13 ส.ค. 2025) จึงควรมองว่า เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มแน่นอน จนกว่าจะมีประกาศทางการ.
มีความเกี่ยวข้องกับ “Visa Bond” หรือไม่?
นอกเหนือจาก Visa Integrity Fee ภาครัฐยัง ทดสอบมาตรการ “Visa Bond” สำหรับผู้ยื่น B1/B2 จากบางประเทศที่มีสถิติเกินกำหนดพำนักสูง/การคัดกรองอ่อน โดยอาจต้องวาง เงินค้ำ 5,000–15,000 ดอลลาร์ เฉพาะกรณีที่ถูกกำหนด (ไม่ใช่ทุกคน) มาตรการนี้ คนละเรื่อง กับ Visa Integrity Fee และไม่ได้ใช้กับทุกประเทศ/ทุกประเภทวีซ่า.
ต้องเตรียมงบเพิ่มเท่าไหร่ (กรณีท่องเที่ยว B1/B2)?
ตัวอย่างการคำนวณคร่าว ๆ (ไม่รวมค่าบริการไปรษณีย์/ศูนย์ยื่น):
-
ค่าวีซ่ามาตรฐาน (MRV) ปัจจุบันสำหรับ Non‑petition B1/B2: 185 ดอลลาร์ (ข้อมูลอ้างอิงหน้า Fees – Travel.State.gov)
-
Visa Integrity Fee: 250 ดอลลาร์ (เริ่ม 1 ต.ค. 2025)
รวมโดยประมาณ: 435 ดอลลาร์ ต่อการออกวีซ่า 1 ครั้ง (ตัวเลขรวมเพื่อภาพรวมเท่านั้น—โปรดเช็กหน้า “Fees for Visa Services” ของสถานทูตอีกครั้งก่อนชำระจริง)
สิ่งที่ควรทำตั้งแต่วันนี้ (สำหรับผู้วางแผนไปสหรัฐฯ ปลายปี 2025–2026)
-
วางงบเผื่อค่าใช้จ่ายใหม่: บวกเพิ่มอย่างน้อย 250 ดอลลาร์ต่อผู้สมัครหนึ่งคน
-
จองคิวสัมภาษณ์ล่วงหน้า: ช่วงปลายปี-ต้นปีคิวมักแน่น โดยเฉพาะฤดูกาลท่องเที่ยว/เปิดภาคเรียน
-
เตรียมเอกสารการเงิน/ผังการเดินทางให้ชัด: เพิ่มความมั่นใจต่อเจ้าหน้าที่กงสุล
-
ตรวจสิทธิ VWP/ESTA (ถ้าเป็นสัญชาติที่เข้าเกณฑ์): ผู้มีสิทธิ VWP ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมนี้ (แต่ยังต้องจ่ายค่า ESTA ตามอัตรา CBP)
-
ติดตามประกาศอย่างเป็นทางการ: รายละเอียดวิธีชำระ/กระบวนการคืนเงิน (ถ้ามี) อาจออกใกล้วันเริ่มใช้ผ่าน Travel.State.gov หรือประกาศของสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศ.
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1) Visa Integrity Fee เก็บเมื่อไหร่—ตอนยื่น หรือ ตอนอนุมัติ?
เก็บ ตอนออกวีซ่า (visa issuance) หลังสัมภาษณ์ผ่าน ไม่ใช่ตอนจ่าย MRV ก่อนสัมภาษณ์
2) ต้องจ่ายทุกครั้งที่ “ต่ออายุ” วีซ่าไหม?
ใช่ หากเป็นการ ออกสติ๊กเกอร์วีซ่าใหม่ (แม้จะยื่นผ่านไปรษณีย์/ยกเว้นสัมภาษณ์) ก็เข้าเงื่อนไข “visa issuance”
3) คนใช้ VWP/ESTA ต้องจ่ายหรือไม่?
ไม่ต้อง เพราะไม่ได้ “ออกวีซ่า” เป็นเพียงอนุมัติเดินทางล่วงหน้า (ESTA)
4) นักเรียนต่างชาติ (F/M) และแลกเปลี่ยน (J) ต้องจ่ายไหม?
ต้องจ่าย เมื่อวีซ่าถูกอนุมัติออกสติ๊กเกอร์ (แยกจากค่า SEVIS และ MRV)
5) มีสิทธิขอยกเว้นค่าธรรมเนียมหรือไม่ (fee waiver)?
ปัจจุบัน ไม่มีการยกเว้น ที่ประกาศใช้ทั่วไป
6) ค่าธรรมเนียมนี้คืนได้ไหมหากปฏิบัติตามกฎครบ?
มีรายงานว่า อาจคืนได้ แต่ ขั้นตอน-เงื่อนไขยังไม่ชัดเจน ณ ตอนนี้ ควรติดตามประกาศทางการ.
7) อัตรา 250 ดอลลาร์จะเปลี่ยนทุกปีหรือไม่?
ตั้งแต่ปีงบฯ 2026 กฎหมายเปิดทางให้ ปรับตามเงินเฟ้ออัตโนมัติ.
8) ค่าธรรมเนียมนี้เกี่ยวอะไรกับ Reciprocity Fee เดิมหรือไม่?
คนละส่วนกัน หากประเทศของผู้สมัครมี Reciprocity Fee ก็ยังต้องชำระ ตามเดิม แยกจาก Visa Integrity Fee.
9) มีผลกระทบอะไรกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลก?
ภาคการท่องเที่ยวสหรัฐฯ กังวลว่าอาจทำให้การเดินทางลดลง โดยเฉพาะช่วงอีเวนต์ใหญ่ ๆ อย่าง ฟุตบอลโลก 2026 และ โอลิมปิก 2028.
10) เกี่ยวข้องกับ “Visa Bond” ที่เป็นเงินค้ำ 5,000–15,000 ดอลลาร์ไหม?
เป็น มาตรการคนละเรื่อง และใช้เฉพาะบางประเทศ/บางกรณีตามเกณฑ์ของ DOS.
11) คนไทยที่ยื่น B1/B2 หลัง 1 ต.ค. 2025 ต้องเตรียมเงินเท่าไหร่?
โดยทั่วไปคือ MRV 185 ดอลลาร์ + Visa Integrity Fee 250 ดอลลาร์ = ราว 435 ดอลลาร์ ต่อการออกวีซ่า 1 ครั้ง (ยังไม่รวมค่าจัดส่ง). โปรดเช็กหน้าค่าธรรมเนียมสถานทูตอีกครั้งก่อนชำระจริง.
12) ถ้าสถานทูตปฏิเสธวีซ่า จะต้องจ่าย Visa Integrity Fee ไหม?
ไม่ เพราะเก็บเฉพาะเมื่อ “ออกวีซ่า” เท่านั้น (กรณีไม่ผ่าน ไม่มีการออกวีซ่า จึงไม่มีการเก็บ)
วางแผนเที่ยวต่อให้คุ้ม — เลือกเส้นทางที่ใช่กับคุณ
กำลังเตรียมเอกสารและงบประมาณสำหรับการเดินทางไปสหรัฐฯ ท่ามกลางประเด็นค่าธรรมเนียมใหม่ “Visa Integrity Fee”? ถ้าอยากแบ่งช่วงเวลาท่องเที่ยวให้คุ้ม ลองพิจารณาเส้นทางยอดฮิตอย่าง ทัวร์ยุโรป ที่รวมเมืองคลาสสิกและธรรมชาติสวยงาม หรือจะบินลัดฟ้าไปสัมผัสเมืองระดับโลก เส้นทางธรรมชาติอเมริกันสุดอลังกับ ทัวร์อเมริกา ก็พร้อมตัวเลือกหลากหลาย โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Thaifly คอยช่วยแนะนำแพ็กเกจให้เหมาะกับงบ เวลาที่มี และสไตล์การเที่ยวของคุณ
- สายยุโรป: เช็กดีล ทัวร์ยุโรป ครอบคลุมอิตาลี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ สเปน และสแกนดิเนเวีย
- สายอเมริกา: สำรวจเส้นทางฮิตในสหรัฐฯ และแคนาดากับ ทัวร์อเมริกา ทั้งอุทยานแห่งชาติ เมืองใหญ่ และเส้นทางถ่ายรูป
ต้องการคำแนะนำแบบส่วนตัว? ให้ผู้เชี่ยวชาญ Thaifly ช่วยออกแบบเส้นทาง จัดการเอกสาร และวางงบประมาณ พร้อมเทียบแพ็กเกจ ทัวร์ยุโรป และ ทัวร์อเมริกา ที่เหมาะกับคุณที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง