Digital Nomad Visa 2025 — ประเทศไหนเปิดวีซ่าทำงานท่องเที่ยวเพิ่มบ้าง (อัปเดตล่าสุด)
เมื่อการทำงาน “ที่ไหนก็ได้” กลายเป็นเรื่องปกติหลังยุคโควิด-19 เกิดแนวคิด “Digital Nomad” — คนที่ใช้ชีวิตเดินทางไปพร้อมกับทำงานทางไกล (remote work) อย่างอิสระ
หลายประเทศจึงออกนโยบาย วีซ่าสำหรับคนทำงานทางไกลหรือ “Digital Nomad Visa / Remote Work Visa” เพื่อดึงดูดผู้มีรายได้จากต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายในประเทศของตน
จุดเด่นของ Digital Nomad Visa ได้แก่
-
อยู่ได้นานกว่าวีซ่านักท่องเที่ยวปกติ
-
ทำงานให้กับบริษัทหรือลูกค้าในต่างประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
-
บางประเทศมีเงื่อนไขภาษีพิเศษ หรือยกเว้นภาษีรายได้ท้องถิ่น
-
การเดินทางเข้า-ออกสะดวก (หลายประเทศทำเป็น multiple-entry)
-
สร้างโอกาสในการตั้งฐานชีวิตใหม่ในต่างแดน
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขแตกต่างกันในแต่ละประเทศ — ทั้งรายได้ขั้นต่ำ, ประกันสุขภาพ, อายุ, ประเภทงาน ฯลฯ
บทความนี้จะสรุปให้คุณเห็นภาพรวม ประเทศที่เพิ่งเปิด Digital Nomad Visa หรืออัปเดตในปี 2025 พร้อมแนะนำประเทศไทย และคำถาม-คำตอบที่ผู้สมัครมักสงสัย
ประเทศที่เปิด Digital Nomad Visa ใหม่ หรืออัปเดตในปี 2025
ต่อไปนี้คือรายชื่อบางประเทศที่เพิ่งเปิดโปรแกรม Digital Nomad Visa หรือมีอัปเดตสำคัญในปี 2025 พร้อมเงื่อนไขสำคัญ (ไม่ครบทุกประเทศ — เน้น “เพิ่มใหม่ / อัปเดต”)
ประเทศ / เขต | ระยะเวลาวีซ่า / เงื่อนไขใหม่ | รายได้ขั้นต่ำ / เงื่อนไขสำคัญ | หมายเหตุ / อัปเดตปี 2025 |
---|---|---|---|
ไซปรัส (Cyprus) | วีซ่า Digital Nomad 12 เดือน (มีโอกาสต่ออายุ 2 ปี) | — | ไซปรัสเปิดรับสมัครในปี 2025 สำหรับพลเมืองนอก EU |
สโลวีเนีย (Slovenia) | วีซ่าใหม่เริ่ม 21 พฤศจิกายน 2025 | ต้องทำงานให้บริษัทต่างประเทศ / ลูกค้าต่างประเทศ | เป็นประเทศในเขตเชงเก้น — เดินทางภายในยุโรปได้ 90 วัน |
อิตาลี (Italy) | มีโปรแกรม Digital Nomad Visa สำหรับ non-EU | รายได้ขั้นต่ำประมาณ $30,000 / ประกันสุขภาพ | อนุญาตให้ต่ออายุประจำปีได้ |
เกาหลีใต้ (South Korea) | วีซ่า remote work อายุ 1 ปี (ต่ออายุได้) | รายได้ขั้นต่ำ ~USD 65,630 / มีประสบการณ์ remote work อย่างน้อย 1 ปี | เงื่อนไขต้องสมัครผ่านสถานกงสุลก่อนเข้าเมือง |
ไต้หวัน (Taiwan) | วีซ่า remote work อายุ 6 เดือน | รายได้ขั้นต่ำ 20,000–40,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นอยู่กับอายุ | สมัครได้ทางออนไลน์ / สถานทูต |
มาเลเซีย (Malaysia) | วีซ่า “De Rantau Visa” 1 ปี (ต่ออายุได้) | รายได้ขั้นต่ำ ~USD 24,000 (digital domain) หรือ USD 60,000 (ตำแหน่งผู้บริหาร) | กระบวนการบางส่วนเป็นออนไลน์ |
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE / Dubai / Abu Dhabi) | วีซ่า remote work ระยะยาว | — | เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการพูดถึงในรายการวีซ่า nomad ปี 2025 |
นอกจากนี้ ตามแหล่งข้อมูลหลายแห่ง ปัจจุบันมี มากกว่า 66 ประเทศ ที่ให้บริการ Digital Nomad Visa / Remote Work Permit แล้ว
ตัวอย่างประเทศยอดนิยม: สเปน, โปรตุเกส, กรีซ, เอสโตเนีย, โครเอเชีย ฯลฯ
โฟกัสประเทศไทย — อัปเดตล่าสุด (2025)
ประเทศไทยก็อยู่ในแนวร่วมสาย “ดึงดูด Digital Nomad” ด้วยเช่นกัน โดยมีสองโปรแกรมสำคัญคือ Destination Thailand Visa (DTV) และ LTR (Long-Term Residence) Visa / หมวดผู้เชี่ยวชาญสูง
Destination Thailand Visa (DTV)
-
เป็นวีซ่าหลายครั้ง (multiple entry) มีอายุ 5 ปี
-
ผู้ถือสามารถพักอาศัยได้ไม่เกิน 180 วันต่อครั้งที่เข้ามา และสามารถขอขยายอีก 180 วันในแต่ละครั้ง
-
ค่าธรรมเนียมวีซ่า: ประมาณ £300 (หรือประมาณ 10,000 บาท / ขึ้นอยู่กับสถานทูต)
-
เงื่อนไขหลัก
-
อายุขั้นต่ำ 20 ปี
-
ต้องทำงานทางไกลให้กับบริษัทหรือลูกค้า “ต่างประเทศ” หรือมีรายได้จากต่างประเทศ
-
ต้องมีหลักฐานเงินสด / สินทรัพย์ในบัญชี (เช่น 500,000 บาท ประมาณ $13,600)
-
-
ข้อจำกัด / ประเด็นที่คนควรรู้
-
แม้จะเป็นวีซ่า 5 ปี แต่ผู้ถือไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ได้ต่อเนื่อง 5 ปีเต็ม — ต้องออก-เข้าใหม่ (แต่ละ entry 180 วัน)
-
การขยายเวลา (extension) ต้องขอที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไทย และมีค่าธรรมเนียมที่ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา (1,900–10,000 บาท)
-
มีเงื่อนไขเรื่องภาษี / สถานะการทำงาน — แม้จะทำงานจากต่างประเทศ ไม่ได้หมายความไม่มีภาระภาษีทั้งหมด (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาอยู่ในไทย / กฎหมายภาษี)
-
-
จุดเด่น: ให้ความยืดหยุ่นยาว ก่อให้เกิดโอกาสในธุรกิจที่รองรับกลุ่ม Digital Nomad เช่น co-working, ที่พักรายเดือน ฯลฯ
LTR Visa / โปรแกรมผู้เชี่ยวชาญสูง
-
สำหรับกลุ่มที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น ผู้มีทักษะสูง (High Potential Nomads) หรือทำงานในบริษัทที่มีรายได้สูง
-
เงื่อนไขอาจเข้มงวด — ต้องมีรายได้สูงหรืออยู่ในวงการที่รัฐสนับสนุน
-
ผู้ถือ LTR อาจได้รับสิทธิอยู่ในไทยได้นานถึง 10 ปี (ขึ้นอยู่กับโปรแกรม)
-
จุดประสงค์คือ “ดึงฝีมือระดับสูงเข้าสู่ไทย” — จึงมีเงื่อนไขทางการเงิน / คุณวุฒิ / ประสบการณ์ มากกว่าวีซ่า DTV
วิธีเลือกประเทศ / วีซ่าที่เหมาะกับคุณ
เมื่อต้องเลือกว่าจะสมัคร Digital Nomad Visa ประเทศใด / โปรแกรมใด ควรพิจารณา:
-
รายได้ขั้นต่ำ (Income Threshold)
ประเทศบางแห่งกำหนดรายได้ขั้นต่ำค่อนข้างสูง (เช่น เกาหลีใต้) ขณะที่บางประเทศยืดหยุ่นมากกว่า -
ระยะเวลาที่พำนักได้ / ความยืดหยุ่น (Duration & Extension)
บางที่ให้ stay ได้ 1 ปี บางที่ให้หลายปี หรือให้ entry ครั้งละ 180 วัน -
ภาษี / ภาระภาษีในประเทศนั้น
บางประเทศยกเว้นภาษีรายได้ที่ได้จากต่างประเทศ เช่น โครเอเชียภายในระยะเวลาวีซ่า -
เงื่อนไขด้านงาน / ประเภทงาน
บางประเทศอาจไม่รับผู้มีรายได้จากบริษัทในประเทศนั้น หรือห้ามทำงานกับลูกค้าที่อยู่ภายในประเทศ -
ความสะดวกของระบบวีซ่า / การสมัคร / ต่ออายุ
หากประเทศอนุญาตให้สมัครออนไลน์ หรือมีเงื่อนไขง่ายจะช่วยลดความยุ่งยาก -
คุณภาพชีวิต / ค่าใช้จ่าย / อินเทอร์เน็ต / ความปลอดภัย / ระบบสาธารณสุข
สิ่งเหล่านี้สำคัญมากสำหรับคนที่จะอยู่ระยะยาว -
โอกาสเข้าสู่สถานะถาวร / การรวมครอบครัว
บางโปรแกรมเปิดทางให้ขออยู่ถาวร (residency) หรือให้ครอบครัวมาด้วย
ขั้นตอนเตรียมตัวสมัคร Digital Nomad Visa
แม้รายละเอียดแต่ละประเทศจะแตกต่าง แต่โดยทั่วไปจะมี 6 ขั้นตอนหลัก
-
ตรวจสอบเงื่อนไข และเลือกประเทศ / โปรแกรมให้ตรงกับคุณ
ดูรายได้ขั้นต่ำ, ระยะเวลา stay, ภาระภาษี, เงื่อนไขงาน ฯลฯ -
เตรียมเอกสารสำคัญ
-
หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุเหลือ
-
รูปถ่ายตามสเปก
-
ประวัติการทำงาน / ประวัติการรับเงิน
-
สัญญาจ้างงาน / หลักฐานรับจ้าง / ใบแจ้งรายได้
-
บัญชีธนาคาร / หลักฐานเงินฝาก
-
ประกันสุขภาพ (บางประเทศบังคับ)
-
จดหมายแสดงเจตนา / แผนชีวิต / ที่พักในประเทศนั้น
-
ประวัติอาชญากรรม / ใบรับรองความประพฤติ (ถ้าต้องการ)
-
-
สมัครผ่านเว็บไซต์สถานทูต / ระบบออนไลน์ (ถ้ามี)
ยื่นคำร้องออนไลน์ หรือที่สถานทูต / กงสุลประเทศนั้น -
เข้ารับสัมภาษณ์ / นัดหมาย (ถ้าจำเป็น)
บางประเทศอาจต้องมืองดงวด -
รอผล / เข้าประเทศ / ติดตั้งที่อยู่ (Register Address ในประเทศนั้น)
เมื่อได้รับวีซ่าแล้ว เข้าไปภายในระยะเวลาที่กำหนด -
ขอขยายเวลาหรือยื่นขอเปลี่ยนสถานะ (ถ้ามี)
ก่อนวีซ่าหมดอายุ ให้ดำเนินการขยายตามกฎหมายประเทศนั้น
ข้อดี & ข้อควรระวังของ Digital Nomad Visa
ข้อดี
-
อยู่ได้ถูกกฎหมายโดยไม่ต้องใช้วีซ่านักท่องเที่ยวซ้ำ
-
ทำงานให้กับบริษัท / ลูกค้าในต่างประเทศโดยไม่ผิดกฎหมาย
-
ประหยัดภาษีในบางประเทศ (ถ้าวีซ่ามีเงื่อนไขลดหย่อน)
-
สร้างคุณภาพชีวิต: อยู่ในประเทศที่คุณชอบ ได้สัมผัสวัฒนธรรม
-
โอกาสทำธุรกิจในท้องถิ่น เช่น สตาร์ตอัพ, co-working, ที่พัก
-
ความมั่นใจ: มีสถานะถูกต้อง ไม่เสี่ยงถูกไล่ออก / ถูกจับ
ข้อควรระวัง
-
เงื่อนไขเข้มงวด — รายได้ขั้นต่ำ / ประสบการณ์ / ประกันสุขภาพ
-
ภาระภาษีในประเทศนั้นหรือในไทย (ถ้าคุณมีภาระภาษีในหลายประเทศ)
-
ระยะ stay อาจไม่ต่อเนื่อง — ต้องออกเข้าใหม่
-
ค่าใช้จ่ายแอบแฝง เช่น ค่าบริการวีซ่า / ค่าตรวจสุขภาพ / ค่าต่ออายุ
-
ความเปลี่ยนแปลงนโยบาย — รัฐบาลอาจเปลี่ยนกฎหมาย
-
ถ้าวีซ่าหมด — คุณอาจถูกบังคับให้ออกจากประเทศ
-
ต้องมีวินัยเรื่องเอกสาร / ติดตามใบอนุญาต / ต่ออายุ
FAQ — คำถามที่พบบ่อย
-
Digital Nomad Visa คืออะไร แตกต่างกับวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่าทำงานอย่างไร?
-
เป็นวีซ่าที่ให้สิทธิพำนักระยะยาวและอนุญาตให้ทำงานทางไกลให้กับบริษัท/ลูกค้าในต่างประเทศ
-
แตกต่างกับวีซ่านักท่องเที่ยวซึ่งมักห้ามทำงาน
-
แตกต่างจากวีซ่าทำงานปกติซึ่งมักกำหนดให้นายจ้างในประเทศนั้น
-
-
ในปี 2025 ประเทศใดเปิด Digital Nomad Visa ใหม่บ้าง?
-
ไซปรัส เปิดโปรแกรมในปี 2025
-
สโลวีเนีย จะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 21 พฤศจิกายน 2025
-
อิตาลี อัปเดตเงื่อนไขสำหรับ non-EU
-
เกาหลีใต้, ไต้หวัน, มาเลเซีย มีโปรแกรม remote work ที่อัปเดต
-
-
สมัคร DTV (Destination Thailand Visa) ต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง?
-
อายุขั้นต่ำ 20 ปี
-
ทำงานทางไกลให้บริษัท/ลูกค้าต่างประเทศ
-
มีหลักฐานเงินฝาก / สินทรัพย์ (เช่น 500,000 บาท)
-
มีประกันสุขภาพ (ขึ้นกับเงื่อนไขของสถานทูต / กฎหมายไทย)
-
ยื่นคำร้องผ่านสถานทูต / กงสุล / ระบบที่กำหนด
-
-
สามารถอยู่ในไทยได้ต่อเนื่องกี่วัน / ต่ออายุได้ไหม?
-
เข้าพักได้ 180 วันต่อ entry และสามารถขอขยายอีก 180 วันได้ในบางครั้ง
-
วีซ่า DTV มีอายุ 5 ปี แบบ multiple entry
-
การขยายระยะเวลาทำในไทย (extension) ต้องยื่นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
-
-
ถ้ามีรายได้ไม่ถึงขั้นต่ำ จะสมัครวีซ่า nomad ได้ไหม?
-
โดยทั่วไปแล้วไม่ผ่าน เพราะหลายประเทศตั้งเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำ
-
บางประเทศอาจยืดหยุ่นได้ ถ้างานมีศักยภาพหรือมีเงื่อนไขอื่นช่วย
-
-
ภาษีจะต้องจ่ายในประเทศนั้นไหม ถ้ามี Digital Nomad Visa?
-
ขึ้นอยู่กับกฎหมายภาษีของประเทศนั้น — บางประเทศยกเว้นภาษีรายได้จากต่างประเทศ เช่น โครเอเชียในช่วงวีซ่า nomad
-
แต่ถ้าคุณพักในประเทศนั้นนานเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อาจถูกจัดเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ (tax resident)
-
-
ถ้าต้องการย้ายประเทศ / เปลี่ยนโปรแกรม nomad ได้ไหม?
-
ได้ — เมื่อวีซ่าหมดอายุ คุณสามารถสมัครวีซ่าใหม่ในประเทศอื่น
-
ถ้าวีซ่ายังไม่หมด บางประเทศอาจอนุญาตเปลี่ยนสถานะภายใน เช่น เปลี่ยนจากนักท่องเที่ยวเป็น nomad (ขึ้นอยู่กับประเทศ)
-
-
สามารถเอาครอบครัว (คู่สมรส / เด็ก) มาด้วยได้ไหม?
-
หลายโปรแกรมอนุญาตให้ครอบครัวมาด้วยได้ (ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ)
-
แต่บางประเทศอาจไม่ให้สิทธิทำงานแก่คู่สมรส
-
-
ถ้าวีซ่า nomad หมดแล้ว ต้องออกประเทศไหม?
-
ถ้าวีซ่าไม่สามารถต่ออายุได้ หรือหมดระยะ stay แล้ว — ต้องออกประเทศตามกฎหมาย
-
บางประเทศให้เวลา “grace period” ก่อนถูกปรับ / เดินตรวจคนเข้าเมือง
-
-
อะไรคือสิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนสมัคร Digital Nomad Visa?
-
ความน่าเชื่อถือ / ความยั่งยืนของโปรแกรม
-
เงื่อนไขภาษี / ภาระภาษี
-
ความสะดวกระบบวีซ่า / ต่ออายุ
-
คุณภาพชีวิต / ค่าใช้จ่าย / อินเทอร์เน็ต / พื้นที่ทำงาน
-
สิทธิในการทำงาน / ประเภทงานที่อนุญาต / การเปลี่ยนสถานะ
-
กฎหมายท้องถิ่น / ข้อจำกัด / การรับรองสุขภาพ
-
วางแผนชีวิตแบบ Digital Nomad ให้คุ้ม — เลือกประเทศและวีซ่าที่ใช่กับคุณ
กำลังวางแผนเริ่มต้นชีวิตแบบ Digital Nomad? ไม่ว่าคุณจะอยากใช้ชีวิตท่ามกลางวิวทะเลที่บาหลี คว้าลมหนาวในยุโรป หรือทำงานชิล ๆ จากคาเฟ่ที่เชียงใหม่ ปี 2025 นี้คือช่วงเวลาทองของนักเดินทางสายรีโมท เพราะหลายประเทศทั่วโลกได้เปิด Digital Nomad Visa เพื่อดึงดูดคนทำงานทางไกลจากทั่วโลกให้มาใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย
- สายเอเชีย: ไทย เกาหลีใต้ และไต้หวัน เปิดวีซ่าคนทำงานทางไกล พร้อมสิทธิพำนักระยะยาวและสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการทำงานออนไลน์
- สายยุโรป: อิตาลี ไซปรัส และสโลวีเนีย เพิ่มโปรแกรม Digital Nomad Visa ใหม่ เหมาะกับคนที่อยากใช้ชีวิตท่ามกลางวัฒนธรรมยุโรป
- สายทะเลและอากาศดี: มาเลเซียและดูไบ พร้อมต้อนรับคนทำงานทางไกลที่ต้องการความสะดวกสบายในระดับสากล
อยากรู้ว่าประเทศไหนเหมาะกับสไตล์ชีวิตของคุณที่สุด? ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Thaifly ช่วยวางแผนเส้นทางชีวิตแบบ Digital Nomad ตั้งแต่วีซ่า ที่พัก อินเทอร์เน็ต ไปจนถึงการจัดงบประมาณ พร้อมเทียบข้อมูล แพ็กเกจท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่ตอบโจทย์ทั้งสายเที่ยวและสายทำงานในทริปเดียว
บทความที่เกี่ยวข้อง