เที่ยวยุโรปตะวันออก แนะนำเมืองสวย พร้อมแพลนเที่ยวสุดคุ้มปี 2025

แอดมิน

เที่ยวยุโรปตะวันออก แนะนำเมืองสวย พร้อมแพลนเที่ยวสุดคุ้มปี 2025

ยุโรปตะวันออก... แค่ได้ยินชื่อ หลายคนอาจจะนึกถึงความงดงามทางสถาปัตยกรรมยุคเก่าแก่, ประวัติศาสตร์อันยาวนาน, วัฒนธรรมที่เข้มข้น, และที่สำคัญคือ "ราคา" ที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มากกว่ายุโรปตะวันตกมากนัก! ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่าง, เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร, และยังคงความคลาสสิกของยุโรปไว้ได้อย่างครบถ้วน ยุโรปตะวันออกคือคำตอบที่ยอดเยี่ยมสำหรับปี [ปีปัจจุบัน] นี้ครับ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเมืองน่าเที่ยวที่ไม่ควรพลาด พร้อมคำแนะนำในการวางแผนการเดินทางอย่างละเอียด เพื่อให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด!


ทำไมต้องเที่ยวยุโรปตะวันออก?

  • ความคุ้มค่า: ค่าครองชีพ, ค่าอาหาร, ค่าที่พัก, และค่าเดินทางในยุโรปตะวันออกโดยรวมแล้วถูกกว่ายุโรปตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คุณสามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจมากขึ้น หรือเพิ่มวันเดินทางได้ยาวนานขึ้นในงบประมาณเท่าเดิม

  • สถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์: เต็มไปด้วยปราสาทเก่าแก่, เมืองมรดกโลก, โบสถ์ที่สวยงาม, และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยุคโรมัน, ยุคกลาง, หรือช่วงหลังสงครามโลก

  • วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์: แต่ละประเทศมีวัฒนธรรม, ประเพณี, อาหาร, และศิลปะที่เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน ทำให้การเดินทางเต็มไปด้วยความหลากหลาย

  • ผู้คนเป็นมิตร: ผู้คนในยุโรปตะวันออกส่วนใหญ่เปิดกว้างและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ

  • ความงดงามทางธรรมชาติ: นอกจากเมืองสวยๆ แล้ว ยังมีอุทยานแห่งชาติ, ภูเขา, ทะเลสาบ, และชายหาดที่สวยงามรอให้คุณไปสัมผัส


แนะนำเมืองน่าเที่ยวในยุโรปตะวันออกที่ไม่ควรพลาด!

1. ปราก (Prague), สาธารณรัฐเช็ก

เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งร้อยยอด" ด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค, บาโรก, และเรอเนซองส์ที่โดดเด่นสะดุดตา ปรากคือจุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในยุโรปตะวันออก

  • สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด:

    • สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge): สะพานเก่าแก่ที่เชื่อมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา เต็มไปด้วยประติมากรรมนักบุญ และสามารถมองเห็นวิวปราสาทปรากได้อย่างสวยงาม

    • ปราสาทปราก (Prague Castle): หมู่พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์ไวตัส, โบสถ์เซนต์จอร์จ, และตรอกทองคำ

    • จัตุรัสเมืองเก่า (Old Town Square): ศูนย์กลางของเมืองเก่าที่คึกคักไปด้วยผู้คน อาคารเก่าแก่ และนาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) อันโด่งดัง

    • ย่านชาวยิว (Jewish Quarter): ชมสุสานชาวยิวเก่าแก่, ซินนาโกกเก่าแก่, และพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวยิวในปราก

  • ข้อควรรู้: ปรากเป็นเมืองที่เดินเที่ยวได้ง่าย ระบบขนส่งสาธารณะดีเยี่ยม

ปราก (Prague), สาธารณรัฐเช็ก


2. บูดาเปสต์ (Budapest), ฮังการี

"ไข่มุกแห่งดานูบ" เมืองหลวงของฮังการีที่แบ่งออกเป็นสองฝั่งโดยแม่น้ำดานูบ คือ "บูดา" ฝั่งภูเขาที่มีปราสาทและเนินเขา และ "เปสต์" ฝั่งราบที่เต็มไปด้วยอาคารรัฐสภา, ถนนช้อปปิ้ง, และสถานบันเทิง

  • สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด:

    • อาคารรัฐสภาฮังการี (Hungarian Parliament Building): หนึ่งในอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำดานูบ

    • ปราสาทบูดา (Buda Castle): พระราชวังเก่าแก่บนยอดเขาบูดา มองเห็นวิวเมืองได้กว้างไกล

    • Fisherman's Bastion: ป้อมปราการสไตล์นีโอ-โรมาเนสก์ที่สวยงามราวเทพนิยาย วิวสวยมากโดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก

    • โรงอาบน้ำร้อน Széchenyi Thermal Bath: สัมผัสประสบการณ์การแช่น้ำแร่ร้อนกลางแจ้งในอาคารสไตล์บาโรกอันโอ่อ่า

    • สะพานเชน (Chain Bridge): สะพานเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของบูดาเปสต์ ยามค่ำคืนจะสว่างไสวสวยงาม

  • ข้อควรรู้: บูดาเปสต์มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีเยี่ยม เช่น รถราง, รถไฟใต้ดิน และรถเมล์

บูดาเปสต์ (Budapest), ฮังการี


3. เวียนนา (Vienna), ออสเตรีย

แม้จะอยู่ทางตะวันตกมากกว่าเมืองอื่นๆ ในลิสต์ แต่เวียนนาก็ยังคงเป็นประตูสู่ยุโรปตะวันออก และเป็นเมืองที่มีความสง่างามทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง เป็นเมืองแห่งดนตรีคลาสสิก, ศิลปะ, และสถาปัตยกรรมอันวิจิตร

  • สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด:

    • พระราชวังเชินบรุนน์ (Schönbrunn Palace): อดีตพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บูร์กที่ใหญ่โตและสวยงามอลังการ

    • พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace): พระราชวังใจกลางเมืองที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี

    • มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen's Cathedral): โบสถ์โกธิคขนาดใหญ่ใจกลางเวียนนา เป็นสัญลักษณ์ของเมือง

    • โรงละครโอเปร่าแห่งชาติเวียนนา (Vienna State Opera): หนึ่งในโรงละครโอเปร่าที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดในโลก

    • พิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (Kunsthistorisches Museum Vienna & Natural History Museum Vienna): สองพิพิธภัณฑ์คู่กันที่จัดแสดงงานศิลปะและของสะสมล้ำค่า

  • ข้อควรรู้: เวียนนามีชื่อเสียงด้านคาเฟ่และเบเกอรี่อร่อยๆ อย่าลืมลองเค้ก Sachertorte!

เวียนนา (Vienna), ออสเตรีย


4. คราคูฟ (Kraków), โปแลนด์

อดีตเมืองหลวงของโปแลนด์ที่รอดพ้นจากภัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ยังคงรักษาสภาพเมืองเก่าและสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา, เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์, และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร

  • สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด:

    • จัตุรัสกลางเมืองเก่า (Main Market Square): จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เป็นที่ตั้งของอาคารผ้า (Cloth Hall), โบสถ์เซนต์แมรี่ (St. Mary's Basilica) และหอคอยศาลาว่าการ

    • ปราสาทวาเวล (Wawel Castle) และมหาวิหารวาเวล (Wawel Cathedral): ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของโปแลนด์ ตั้งอยู่บนเนินเขาวาเวล

    • ย่านชาวยิว Kazimierz: ย่านเก่าแก่ที่มีบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์ เต็มไปด้วยคาเฟ่, ร้านอาหาร, และซินนาโกกเก่าแก่

    • เหมืองเกลือ Wieliczka Salt Mine: (อยู่นอกเมืองเล็กน้อย) เหมืองเกลือใต้ดินที่น่าทึ่ง เป็นมรดกโลกของ UNESCO ภายในมีโบสถ์ที่แกะสลักจากเกลือ

    • พิพิธภัณฑ์โรงงานชินด์เลอร์ (Oskar Schindler's Enamel Factory): สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์จากช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

  • ข้อควรรู้: คราคูฟเป็นเมืองที่เดินเที่ยวได้สะดวก และมีระบบขนส่งสาธารณะที่ดี

คราคูฟ (Kraków), โปแลนด์


5. ลูบลิยานา (Ljubljana), สโลวีเนีย

เมืองหลวงที่งดงามและมีเสน่ห์ของสโลวีเนีย เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีแม่น้ำ Ljubljana ไหลผ่านใจกลางเมือง บรรยากาศเงียบสงบ, สะอาด, และเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมาก

  • สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด:

    • ปราสาทลูบลิยานา (Ljubljana Castle): ปราสาทบนยอดเขาที่มองเห็นวิวเมืองได้โดยรอบ ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าได้

    • สะพานมังกร (Dragon Bridge): สัญลักษณ์ของเมืองลูบลิยานา กับรูปปั้นมังกรอันโดดเด่น

    • สะพาน Triple Bridge: สะพานสามแยกที่เป็นเอกลักษณ์ ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Jože Plečnik

    • ตลาดกลาง (Central Market): ตลาดกลางแจ้งและในร่มที่คึกคัก เต็มไปด้วยอาหารท้องถิ่นและสินค้าหลากหลาย

    • ย่านเมืองเก่า: เดินเล่นตามถนนหินกรวด ชมอาคารสีสันสดใส และจิบกาแฟริมแม่น้ำ

  • ข้อควรรู้: ลูบลิยานาเป็นเมืองที่ค่อนข้างกะทัดรัด สามารถเดินเที่ยวได้ทั่วถึง

ลูบลิยานา (Ljubljana), สโลวีเนีย


6. บราติสลาวา (Bratislava), สโลวาเกีย

เมืองหลวงของสโลวาเกีย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ ไม่ไกลจากเวียนนาและบูดาเปสต์ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยย่านเมืองเก่าที่น่ารัก, ปราสาท, และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

  • สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด:

    • ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle): ปราสาทสีขาวขนาดใหญ่บนเนินเขา มองเห็นวิวเมืองและแม่น้ำดานูบ

    • มหาวิหารเซนต์มาร์ติน (St. Martin's Cathedral): โบสถ์เก่าแก่ที่ใช้ในการประกอบพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ฮังการีในอดีต

    • ย่านเมืองเก่า (Old Town): เต็มไปด้วยถนนคนเดิน, ร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, และรูปปั้นสนุกๆ เช่น Cumil (Man at Work)

    • Blue Church (Church of St. Elisabeth): โบสถ์สีฟ้าสดใสสไตล์อาร์ตนูโวที่สวยงามไม่เหมือนใคร

    • Most SNP (UFO Bridge): สะพานที่มีรูปร่างคล้ายจานบิน มีจุดชมวิวและร้านอาหารอยู่ด้านบน

  • ข้อควรรู้: บราติสลาวาเหมาะกับการเที่ยวแบบ One-day trip จากเวียนนา หรือเป็นจุดแวะพักระหว่างทางไปบูดาเปสต์

บราติสลาวา (Bratislava), สโลวาเกีย


7. ซาเกร็บ (Zagreb), โครเอเชีย

เมืองหลวงของโครเอเชีย เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา, เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์, แกลเลอรี่ศิลปะ, และสวนสาธารณะที่สวยงาม แม้จะไม่ได้อยู่ติดทะเลเหมือนเมืองอื่นๆ ในโครเอเชีย แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเอง

  • สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด

    • มหาวิหารซาเกร็บ (Zagreb Cathedral): มหาวิหารโกธิคอันยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง

    • โบสถ์เซนต์มาร์ค (St. Mark's Church): โบสถ์หลังคาโมเสกสีสันสดใสที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง

    • ฟูนิคูลาร์ซาเกร็บ (Zagreb Funicular): รถกระเช้าไฟฟ้าที่สั้นที่สุดในโลก เชื่อมต่อเมืองตอนล่าง (Lower Town) กับเมืองตอนบน (Upper Town)

    • พิพิธภัณฑ์ความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว (Museum of Broken Relationships): พิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใคร จัดแสดงสิ่งของจากความสัมพันธ์ที่จบลง

    • ถนน Tkalčićeva: ถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร, บาร์, และคาเฟ่

  • ข้อควรรู้: ซาเกร็บเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเดินทางต่อไปยังเมืองชายฝั่งทะเลของโครเอเชีย

ซาเกร็บ (Zagreb), โครเอเชีย


การเตรียมตัวและวางแผนเที่ยวยุโรปตะวันออก (ข้อมูลอัปเดต [ปีปัจจุบัน])

1. วีซ่า

  • สำหรับคนไทย หากถือหนังสือเดินทางไทย การเดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้น (ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก, ฮังการี, ออสเตรีย, สโลวีเนีย, สโลวาเกีย, โปแลนด์) ต้องยื่นขอ วีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ซึ่งเป็นวีซ่าประเภท C สำหรับการท่องเที่ยวระยะสั้น ไม่เกิน 90 วัน ภายในช่วงเวลา 180 วัน

  • โครเอเชีย: ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 โครเอเชียได้เข้าร่วมเขตเชงเก้นแล้ว ดังนั้นการเดินทางไปโครเอเชียก็ต้องใช้วีซ่าเชงเก้นเช่นกัน

  • ขั้นตอนการยื่นวีซ่า

    • กำหนดประเทศที่พำนักนานที่สุด หรือประเทศแรกที่เดินทางเข้า หากพำนักแต่ละประเทศเท่ากัน

    • เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามที่สถานทูตกำหนด (หนังสือเดินทาง, รูปถ่าย, เอกสารการจองที่พัก/ตั๋วเครื่องบิน, แผนการเดินทาง, ประกันการเดินทาง, หลักฐานทางการเงิน, หนังสือรับรองการทำงาน/เรียน/ประกอบอาชีพ)

    • นัดหมายและยื่นเอกสารที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (เช่น VFS Global, TLScontact)

    • สถานทูตจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 15 วันทำการ หรืออาจนานกว่านั้นในช่วงฤดูท่องเที่ยว ควรยื่นล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน

2. การเดินทางระหว่างประเทศและในเมือง

  • เครื่องบิน

    • เที่ยวบินตรง: ปัจจุบันยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองในยุโรปตะวันออกโดยตรง ส่วนใหญ่จะต้องต่อเครื่องอย่างน้อย 1 ครั้ง

    • สายการบินยอดนิยม: Qatar Airways, Emirates, Turkish Airlines, Etihad Airways, Lufthansa, KLM, Austrian Airlines, LOT Polish Airlines (มีไฟลต์ตรงจากกรุงเทพฯ ไปวอร์ซอว์ โปแลนด์)

    • เมืองหลักที่เป็น Hub: เวียนนา, แฟรงก์เฟิร์ต, อิสตันบูล, โดฮา, ดูไบ เป็นจุดเชื่อมต่อที่ดี

    • สายการบิน Low-cost ในยุโรป: เมื่อถึงยุโรปแล้ว สามารถใช้สายการบินราคาประหยัด เช่น Ryanair, Wizz Air, EasyJet เพื่อเดินทางข้ามประเทศได้รวดเร็วและประหยัด

  • รถไฟ

    • เครือข่ายรถไฟดีเยี่ยม: ยุโรปตะวันออกมีเครือข่ายรถไฟที่เชื่อมโยงกันอย่างดี เป็นวิธีที่สะดวกสบายและได้ชมวิวสวยๆ

    • บริษัทรถไฟหลัก: Czech Railways (CD), Hungarian State Railways (MÁV), Austrian Federal Railways (ÖBB), Polish State Railways (PKP), Slovenian Railways (SŽ)

    • ตั๋วรถไฟ: สามารถจองล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ของบริษัทรถไฟแต่ละประเทศ หรือผ่านเว็บไซต์รวมอย่าง Rail Europe, Omio

    • Eurail Pass/Interrail Pass: หากเดินทางหลายประเทศและใช้รถไฟบ่อยๆ อาจพิจารณาซื้อ Eurail Pass (สำหรับคนนอกยุโรป) หรือ Interrail Pass (สำหรับคนยุโรป) ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

  • รถบัส

    • ราคาประหยัด: FlixBus, RegioJet (Student Agency), Eurolines เป็นบริษัทรถบัสยอดนิยมที่ให้บริการครอบคลุมยุโรปตะวันออก ราคาถูกกว่ารถไฟ แต่อาจใช้เวลานานกว่า

  • รถเช่า

    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง หรือต้องการออกนอกเส้นทางท่องเที่ยวหลักๆ ควรตรวจสอบกฎจราจรและข้อกำหนดการขับขี่ในแต่ละประเทศ

    • ข้อควรระวัง: บางประเทศในยุโรปตะวันออก (เช่น สาธารณรัฐเช็ก, สโลวาเกีย, ฮังการี, สโลวีเนีย) มีการเก็บค่าผ่านทางแบบ Vignette (สติ๊กเกอร์ติดหน้ารถ) ต้องซื้อให้ถูกต้อง มิฉะนั้นจะถูกปรับ

3. ที่พัก

  • มีหลากหลายประเภทให้เลือก ทั้งโรงแรม, โฮสเทล, เกสต์เฮาส์, และอพาร์ตเมนต์ (Airbnb)

  • แนะนำ

    • จองล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงฤดูท่องเที่ยว (ฤดูร้อน และช่วงคริสต์มาส/ปีใหม่)

    • เลือกที่พักที่อยู่ใกล้สถานีขนส่งสาธารณะ หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง

    • เปรียบเทียบราคาผ่านเว็บไซต์จองที่พักยอดนิยม (Booking.com, Agoda, Hotels.com)

4. การเงินและสกุลเงิน

  • ยูโร (EUR): ออสเตรีย, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย ใช้สกุลเงินยูโร

  • สกุลเงินท้องถิ่น

    • สาธารณรัฐเช็ก: โครูนาเช็ก (CZK)

    • ฮังการี: โฟรินต์ฮังการี (HUF)

    • โปแลนด์: ซวอตีโปแลนด์ (PLN)

    • โครเอเชีย: คูนาโครเอเชีย (HRK) (แม้จะเป็นสมาชิกเชงเก้น แต่ยังใช้คูนา แต่คาดว่าจะเปลี่ยนเป็นยูโรในอนาคตอันใกล้ ควรตรวจสอบข้อมูล ณ วันเดินทาง)

  • การแลกเปลี่ยนเงิน

    • ควรแลกเงินยูโรติดตัวไปบ้าง และแลกสกุลเงินท้องถิ่นเมื่อไปถึงประเทศนั้นๆ จากตู้ ATM หรือร้านแลกเปลี่ยนเงินที่น่าเชื่อถือ

    • หลีกเลี่ยงการแลกเงินที่สนามบิน เพราะอัตราแลกเปลี่ยนมักจะไม่ดี

    • บัตรเครดิต/เดบิต สามารถใช้ได้ในร้านค้าและโรงแรมใหญ่ๆ แต่ควรมีเงินสดติดตัวไว้สำหรับร้านค้าเล็กๆ หรือกรณีฉุกเฉิน

5. ซิมการ์ด/อินเทอร์เน็ต

  • สามารถซื้อซิมการ์ดท้องถิ่นเมื่อเดินทางถึงสนามบิน หรือซื้อ E-SIM ล่วงหน้า

  • European SIM Card / E-SIM: ควรเลือกซื้อซิมการ์ดที่รองรับการใช้งานในหลายประเทศในยุโรป (Roaming in EU) เพื่อความสะดวกสบาย

  • ผู้ให้บริการยอดนิยม: Orange, Vodafone, T-Mobile, O2, Three

6. สภาพอากาศและฤดูกาล

  • ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม): อากาศกำลังสบาย ดอกไม้บานสะพรั่ง เหมาะแก่การเดินเที่ยว

  • ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): เป็นฤดูท่องเที่ยวหลัก อากาศอบอุ่นถึงร้อน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ราคาที่พักสูงขึ้น

  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม): อากาศเย็นสบาย ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม เป็นอีกช่วงที่น่าเที่ยว

  • ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-มีนาคม): อากาศหนาวจัด อาจมีหิมะตก บางเมืองมีตลาดคริสต์มาสที่สวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศหนาวเย็น

7. ความปลอดภัย

  • โดยรวมแล้ว ยุโรปตะวันออกเป็นภูมิภาคที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว

  • ข้อควรระวัง:

    • ระมัดระวังมิจฉาชีพและนักล้วงกระเป๋า โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนพลุกพล่าน

    • เก็บของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัย

    • หลีกเลี่ยงการเดินในที่เปลี่ยวเวลากลางคืน

    • ตื่นตัวและสังเกตสิ่งรอบข้างเสมอ

8. อาหารและเครื่องดื่ม

  • อาหารเช็ก: โกหลาช (Goulash), ทรเดลนิก (Trdelník), Pork Knuckle, ซุปกระเทียม

  • อาหารฮังการี: ซุปโกหลาช (Goulash), Langos (แป้งทอด), Chicken Paprikash

  • อาหารโปแลนด์: Pierogi (เกี๊ยว), Bigos (สตูว์กะหล่ำปลี), Zurek (ซุปเปรี้ยว)

  • อาหารออสเตรีย: Wiener Schnitzel (เนื้อชุบแป้งทอด), Apfelstrudel (พายแอปเปิ้ล), Sachertorte

  • อาหารโครเอเชีย: Ćevapi (ไส้กรอกย่าง), Peka (เนื้ออบ), Seafood สดๆ ริมทะเล

  • เครื่องดื่ม: เบียร์ (เช็ก, โปแลนด์), ไวน์ (ฮังการี, ออสเตรีย, สโลวีเนีย), Pálinka (เหล้าผลไม้ฮังการี)

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับนักท่องเที่ยว

  • เรียนรู้คำทักทายง่ายๆ: เช่น "Dobrý den" (โดบรี เด็น - สวัสดี), "Děkuji" (เดียคูยิ - ขอบคุณ) จะช่วยสร้างความประทับใจที่ดี

  • พกปลั๊กแปลงหัว: ยุโรปส่วนใหญ่ใช้ปลั๊ก Type C หรือ F

  • เสื้อผ้าที่เหมาะสม: เตรียมเสื้อผ้าให้เข้ากับฤดูกาลและเหมาะสมกับการเดินเที่ยว

  • รองเท้าที่สบาย: คุณจะต้องเดินเยอะมาก

  • วางแผนการเดินทางล่วงหน้า: จองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และรถไฟล่วงหน้า เพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด

  • ประกันการเดินทาง: สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพื่อความอุ่นใจในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน

แหล่งอ้างอิงและข้อมูลอัปเดต

  • สำหรับข้อมูลวีซ่าเชงเก้น: ควรตรวจสอบเว็บไซต์ของสถานทูตของประเทศที่คุณจะเดินทางไปเป็นหลัก หรือเว็บไซต์ของศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (เช่น VFS Global, TLScontact) ในประเทศไทย (ข้อมูล ณ ปัจจุบัน 2568)

  • ข้อมูลรถไฟในยุโรป:

    • Rail Europe: https://www.raileurope.com/

    • Omio: https://www.omio.com/

    • เว็บไซต์การรถไฟของแต่ละประเทศ เช่น ÖBB (ออสเตรีย), CD (เช็ก), MÁV (ฮังการี), PKP (โปแลนด์)

  • ข้อมูลรถบัส:

  • ข้อมูลที่พัก: Booking.com, Agoda, Hotels.com, Airbnb

  • ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการท่องเที่ยว: Lonely Planet, TripAdvisor, Rough Guides

ยุโรปตะวันออกเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์, ประวัติศาสตร์, วัฒนธรรมที่หลากหลาย, และทัศนียภาพอันงดงาม ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่ายุโรปตะวันตกมากนัก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางสายประวัติศาสตร์, ผู้ชื่นชอบงานศิลปะ, สายกิน, หรือสายธรรมชาติ ยุโรปตะวันออกก็มีทุกสิ่งที่คุณตามหา หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเดินทางของคุณ และขอให้คุณมีความสุขกับทริปยุโรปตะวันออกในฝันนะครับ!


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. เที่ยวยุโรปตะวันออกช่วงไหนดีที่สุด? A: ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป นักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นเท่าฤดูร้อน แต่ถ้าชอบบรรยากาศคริสต์มาสและหิมะ ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-มีนาคม) ก็สวยงามไปอีกแบบครับ

2. ต้องขอวีซ่าอะไรบ้างสำหรับการเที่ยวยุโรปตะวันออก? A: คนไทยต้องยื่นขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ครับ สำหรับประเทศในกลุ่มเชงเก้นทั้งหมดที่กล่าวมาในบทความนี้ (เช็ก, ฮังการี, ออสเตรีย, สโลวีเนีย, สโลวาเกีย, โปแลนด์, โครเอเชีย)

3. ควรเตรียมงบประมาณสำหรับเที่ยวยุโรปตะวันออกเท่าไหร่? A: งบประมาณขึ้นอยู่กับสไตล์การเดินทางของคุณครับ โดยทั่วไปแล้วจะถูกกว่ายุโรปตะวันตกมาก หากพักโฮสเทล/อพาร์ตเมนต์ และกินอาหารท้องถิ่น อาจเริ่มต้นที่ 1,500 - 3,000 บาทต่อคนต่อวัน (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ) แต่ถ้าพักโรงแรมดีๆ และกินร้านอาหารหรูๆ ก็จะสูงขึ้นตามลำดับ

4. การเดินทางระหว่างเมืองในยุโรปตะวันออกสะดวกไหม? A: สะดวกสบายมากครับ มีทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟท้องถิ่นเชื่อมโยงกันทั่วถึง นอกจากนี้ยังมีรถบัสราคาประหยัดอย่าง FlixBus หรือ RegioJet เป็นอีกทางเลือกที่ดี

5. ภาษาที่ใช้ในยุโรปตะวันออกคือภาษาอะไร และคนท้องถิ่นพูดภาษาอังกฤษได้ไหม? A: แต่ละประเทศมีภาษาเป็นของตัวเอง เช่น เช็ก, ฮังการี, โปแลนด์, สโลเวเนีย, สโลวัก, โครเอเชีย อย่างไรก็ตาม ในเมืองท่องเที่ยวหลักๆ และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ผู้คนส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว) สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีครับ

6. ควรแลกเงินสกุลอะไรไปบ้าง? A: แลกเงินยูโร (EUR) ติดตัวไปบ้าง และแลกสกุลเงินท้องถิ่นเมื่อไปถึงแต่ละประเทศ (เช่น CZK ในเช็ก, HUF ในฮังการี, PLN ในโปแลนด์) บัตรเครดิตใช้ได้ทั่วไปในร้านค้าใหญ่ๆ แต่ควรมีเงินสดติดตัวไว้สำหรับร้านค้าเล็กๆ หรือกรณีฉุกเฉิน

7. ยุโรปตะวันออกปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวหญิงเดี่ยวไหม? A: โดยรวมแล้วปลอดภัยครับ แต่ก็ควรระมัดระวังตัวเป็นพิเศษเหมือนกับการเดินทางไปที่อื่นๆ ทั่วโลก ไม่เดินในที่เปลี่ยวคนเดียวตอนกลางคืน, ระวังมิจฉาชีพ, และเก็บของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัยเสมอ

8. มีอะไรที่ควรระวังเป็นพิเศษเรื่องความปลอดภัยไหม? A: ระวังนักล้วงกระเป๋าในแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนเยอะๆ, ระวังการเรียกเก็บเงินเกินจริงจากแท็กซี่ที่ไม่มีมิเตอร์, และตรวจสอบข้อมูลการแลกเปลี่ยนเงินให้ดีก่อนแลกเสมอ

9. ต้องซื้อประกันการเดินทางไหม? A: จำเป็นอย่างยิ่งครับ การทำประกันการเดินทางเป็นข้อกำหนดในการขอวีซ่าเชงเก้น และยังช่วยคุ้มครองคุณในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย, อุบัติเหตุ, กระเป๋าเดินทางหาย, หรือเที่ยวบินล่าช้า/ยกเลิก

10. ควรเดินทางกี่วันถึงจะเที่ยวได้คุ้มค่า? A: หากต้องการเที่ยว 2-3 เมืองใหญ่ๆ แนะนำอย่างน้อย 7-10 วันครับ แต่ถ้าต้องการเจาะลึก 3-4 ประเทศ อาจใช้เวลา 14-21 วันขึ้นไป เพื่อให้มีเวลาดื่มด่ำกับแต่ละเมืองได้อย่างเต็มที่

11. สามารถขับรถเที่ยวเองได้ไหมในยุโรปตะวันออก? A: ทำได้ครับ และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง แต่ต้องเตรียมใบขับขี่สากลให้พร้อม และศึกษาเรื่องกฎจราจร, ค่าทางด่วน (Vignette), และที่จอดรถในแต่ละประเทศให้ดีก่อนเดินทาง

12. การใช้ซิมการ์ด/อินเทอร์เน็ตในยุโรปตะวันออกเป็นอย่างไร? A: สะดวกสบายครับ สามารถซื้อซิมการ์ดท้องถิ่นเมื่อไปถึง หรือซื้อ E-SIM ล่วงหน้าได้ แนะนำให้เลือกซิมที่รองรับ Roaming ใน EU เพื่อให้สามารถใช้ได้ทุกประเทศในเขตเชงเก้น


จองทัวร์ยุโรปตะวันออกวันนี้กับผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว

หากคุณอยากให้ทุกอย่างสะดวกสบาย ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และไกด์นำเที่ยว สามารถดูแพ็กเกจ ทัวร์ยุโรป ที่คัดสรรมาแล้วจากผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Thaifly.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

หัวข้อน่าอ่าน