ญี่ปุ่นมีกี่จังหวัด? สำรวจ 47 จังหวัดทั่วญี่ปุ่น พร้อมข้อมูลล่าสุด 2025

แอดมิน

ญี่ปุ่นมีกี่จังหวัด? สำรวจ 47 จังหวัดทั่วญี่ปุ่น พร้อมข้อมูลล่าสุด 2025

ญี่ปุ่น ดินแดนที่ผสมผสานความเก่าแก่และความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว ไม่ได้เป็นเพียงประเทศที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ อาหารอร่อย หรือเทคโนโลยีล้ำยุคเท่านั้น แต่ยังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมย่อยในแต่ละภูมิภาคอีกด้วย แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า ญี่ปุ่นมีกี่จังหวัด? คำตอบคือ 47 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เกาะเหนือสุดอย่างฮอกไกโดไปจนถึงเกาะใต้สุดอย่างโอกินาวะ

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับทั้ง 47 จังหวัดของญี่ปุ่นอย่างละเอียด พร้อมเจาะลึกข้อมูลสำคัญที่น่าสนใจในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้คุณได้วางแผนการเดินทาง หรือทำความเข้าใจประเทศญี่ปุ่นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


ญี่ปุ่นแบ่งออกเป็น 8 ภูมิภาคหลัก แต่ละภูมิภาคประกอบด้วยจังหวัดต่างๆ ดังนี้

1. ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)

  • ฮอกไกโด (Hokkaido): เกาะขนาดใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ ด้วยทุ่งดอกไม้บานสะพรั่งในช่วงฤดูร้อน ลานสกีระดับโลกในช่วงฤดูหนาว และอาหารทะเลสดใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์


2. ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)

ภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่งดงาม เทศกาลท้องถิ่น และบ่อน้ำพุร้อน

  • อาโอโมริ (Aomori): ประตูสู่โทโฮคุ มีชื่อเสียงด้านเทศกาลเนบูตะอันยิ่งใหญ่ และแอปเปิ้ลคุณภาพดี

  • อิวาเตะ (Iwate): จังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโทโฮคุ โดดเด่นด้วยชายฝั่งริอาสและบ่อน้ำพุร้อน

  • มิยางิ (Miyagi): ที่ตั้งของเมืองเซนได เมืองที่ใหญ่ที่สุดในโทโฮคุ และอ่าวที่มีเกาะน้อยใหญ่สวยงามอย่างมัตสึชิมะ

  • อาคิตะ (Akita): เป็นที่รู้จักจากสุนัขอากิตะ น้ำพุร้อน และงานเทศกาลคันโตะ

  • ยามากาตะ (Yamagata): โดดเด่นด้วยภูเขาที่สวยงาม เช่น ภูเขาซาโอ ซึ่งมี "ปีศาจหิมะ" ในฤดูหนาว

  • ฟุกุชิมะ (Fukushima): มีชื่อเสียงด้านธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ทะเลสาบ และบ่อน้ำพุร้อน


3. ภูมิภาคคันโต (Kanto)

ภูมิภาคศูนย์กลางของญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงและเมืองใหญ่หลายแห่ง

  • อิบารากิ (Ibaraki): มีสวนไคราคุเอน หนึ่งในสามสวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

  • โทชิงิ (Tochigi): ที่ตั้งของศาลเจ้านิกโก้โทโชกู มรดกโลกอันเลื่องชื่อ

  • กุนมะ (Gunma): ขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อนคุซัตสึ และแหล่งธรรมชาติที่สวยงาม

  • ไซตามะ (Saitama): จังหวัดที่อยู่ติดกับโตเกียว มีแหล่งช้อปปิ้งและสวนสาธารณะหลายแห่ง

  • ชิบะ (Chiba): เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาตินาริตะ และโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต

  • โตเกียว (Tokyo): เมืองหลวงและศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแฟชั่นของญี่ปุ่น

  • คานางาวะ (Kanagawa): ที่ตั้งของเมืองโยโกฮาม่า และเมืองประวัติศาสตร์คามาคุระ


4. ภูมิภาคชูบุ (Chubu)

ภูมิภาคที่ตั้งอยู่ตอนกลางของเกาะฮอนชู มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งเทือกเขาสูง ชายฝั่งทะเล และที่ราบ

  • นีงาตะ (Niigata): เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งผลิตข้าวสาเกและข้าวพันธุ์ดี

  • โทยามะ (Toyama): โดดเด่นด้วยเส้นทางแอลป์ทาเตยามะคุโรเบะ และอาหารทะเลสดใหม่

  • อิชิกาวะ (Ishikawa): ที่ตั้งของเมืองคานาซาวะ ซึ่งมีสวนเคนโรคูเอนที่สวยงาม

  • ฟุกุอิ (Fukui): มีชื่อเสียงด้านวัดเอเฮจิ และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ฟุกุอิ

  • ยามานาชิ (Yamanashi): ที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิส่วนหนึ่ง และทะเลสาบคาวากูจิโกะ

  • นางาโนะ (Nagano): เป็นที่ตั้งของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น และแหล่งสกีที่มีชื่อเสียง

  • กิฟุ (Gifu): มีหมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ และเทือกเขาที่สวยงาม

  • ชิซูโอกะ (Shizuoka): มีภูเขาไฟฟูจิอีกส่วนหนึ่ง และเป็นแหล่งผลิตชาเขียวชั้นดี

  • ไอจิ (Aichi): ที่ตั้งของเมืองนาโกย่า ศูนย์กลางอุตสาหกรรม และปราสาทนาโกย่า


5. ภูมิภาคคันไซ (Kansai)

หรือคิงกิ ภูมิภาคทางตะวันตกของเกาะฮอนชู เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และเมืองใหญ่อย่างโอซาก้า เกียวโต และนารา

  • มิเอะ (Mie): ที่ตั้งของศาลเจ้าอิเสะ และชายฝั่งที่สวยงาม

  • ชิงะ (Shiga): มีทะเลสาบบิวะ ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

  • เกียวโต (Kyoto): อดีตเมืองหลวงของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยวัด ศาลเจ้า และสวนญี่ปุ่นที่งดงาม

  • โอซาก้า (Osaka): เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น มีชื่อเสียงด้านอาหารรสเลิศ และสถานบันเทิงยามค่ำคืน

  • เฮียวโกะ (Hyogo): ที่ตั้งของเมืองโกเบ ปราสาทฮิเมะจิ และแหล่งบ่อน้ำพุร้อน

  • นารา (Nara): อดีตเมืองหลวงอีกแห่งหนึ่ง มีกวางเดินเล่นอิสระในสวนนารา

  • วากายามะ (Wakayama): โดดเด่นด้วยเส้นทางแสวงบุญคุมะโนะโคโด และบ่อน้ำพุร้อน


6. ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku)

ภูมิภาคทางตะวันตกสุดของเกาะฮอนชู มีทั้งพื้นที่ภูเขาและชายฝั่งทะเล

  • ทตโตริ (Tottori): มีเนินทรายทตโตริที่สวยงามและกว้างใหญ่

  • ชิมาเนะ (Shimane): ที่ตั้งของศาลเจ้าอิซุโมะไทฉะ หนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น

  • โอคายามะ (Okayama): เป็นที่รู้จักจากสวนโคราคุเอน และปราสาทโอคายามะ

  • ฮิโรชิม่า (Hiroshima): มีอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า และเกาะมิยาจิม่าพร้อมประตูโทริอิกลางน้ำ

  • ยามากุจิ (Yamaguchi): มีชื่อเสียงด้านถ้ำอะกิโยชิโดะ และสะพานคินไตเคียว


7. ภูมิภาคชิโกกุ (Shikoku)

เกาะที่เล็กที่สุดในบรรดา 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยธรรมชาติที่บริสุทธิ์และเส้นทางแสวงบุญ

  • โทคุชิมะ (Tokushima): มีชื่อเสียงจากเทศกาลเต้นรำอาวะโอโดริ

  • คางาวะ (Kagawa): เป็นแหล่งผลิตเส้นอุด้งซานุกิ และสวนริทสึริน

  • เอฮิเมะ (Ehime): มีปราสาทมัตสึยามะ และบ่อน้ำพุร้อนโดโกะออนเซ็น

  • โคจิ (Kochi): โดดเด่นด้วยแม่น้ำชิมันโตะที่ใสสะอาด และปราสาทโคจิ


8. ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)

เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น มีภูมิอากาศอบอุ่นกว่าภูมิภาคอื่น ๆ และขึ้นชื่อเรื่องบ่อน้ำพุร้อน ภูเขาไฟ และอาหารอร่อย

  • ฟุกุโอกะ (Fukuoka): เมืองที่ใหญ่ที่สุดในคิวชู เป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งอาหารอร่อย

  • ซางะ (Saga): มีชื่อเสียงด้านเครื่องปั้นดินเผาอาริตะ และเนื้อซางะ

  • นางาซากิ (Nagasaki): เมืองที่มีประวัติศาสตร์การค้ากับต่างชาติ และสวนสนุกเฮาส์เทนบอช

  • คุมาโมโตะ (Kumamoto): ที่ตั้งของปราสาทคุมาโมโตะ และภูเขาไฟอะโซะ

  • โออิตะ (Oita): เป็นแหล่งบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง เช่น เบปปุ และยุฟุอิน

  • มิยาซากิ (Miyazaki): โดดเด่นด้วยชายฝั่งที่สวยงาม และศาลเจ้าที่เกี่ยวข้องกับเทพนิยายญี่ปุ่น

  • คาโกชิมะ (Kagoshima): มีภูเขาไฟซากุระจิมะที่ยังคุกรุ่น และแหล่งบ่อน้ำพุร้อน

  • โอกินาวะ (Okinawa): เกาะทางใต้สุดของญี่ปุ่น มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ชายหาดที่สวยงาม และแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์


ทำไมการรู้จักจังหวัดต่างๆ ในญี่ปุ่นจึงสำคัญ?

การทำความเข้าใจภูมิภาคและจังหวัดต่างๆ ของญี่ปุ่นนั้นมีประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนทริป ผู้ที่สนใจวัฒนธรรม หรือแม้แต่นักธุรกิจ เพราะแต่ละจังหวัดมี:

  • วัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่างกัน: แม้จะอยู่ในประเทศเดียวกัน แต่แต่ละภูมิภาคก็มีภาษาถิ่น อาหารประจำถิ่น เทศกาล และวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์

  • แหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย: ตั้งแต่ภูเขา ทะเล ทะเลสาบ ไปจนถึงเมืองใหญ่ทันสมัย และแหล่งมรดกโลก

  • ผลิตภัณฑ์และสินค้าท้องถิ่น: ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก เช่น เนื้อวัวคุณภาพดี ผลไม้ตามฤดูกาล หัตถกรรมท้องถิ่น

  • สภาพภูมิอากาศ: ที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคและฤดูกาล ทำให้การเตรียมตัวท่องเที่ยวเป็นไปอย่างเหมาะสม

การศึกษาข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกจุดหมายปลายทางที่ตรงกับความสนใจ และสัมผัสประสบการณ์ในญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้งและคุ้มค่าที่สุด


คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับจังหวัดในญี่ปุ่น

  1. ญี่ปุ่นมีกี่จังหวัด? ญี่ปุ่นมีทั้งหมด 47 จังหวัด

  2. จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นคือจังหวัดอะไร? จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นคือ ฮอกไกโด

  3. เมืองหลวงของญี่ปุ่นคือจังหวัดอะไร? เมืองหลวงของญี่ปุ่นคือ โตเกียว ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งในภูมิภาคคันโต

  4. ภูมิภาคที่สำคัญที่สุดทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นคือภูมิภาคใด? ภูมิภาคคันโต โดยเฉพาะโตเกียว เป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุด

  5. จังหวัดใดที่มีภูเขาไฟฟูจิ? ภูเขาไฟฟูจิเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัด ยามานาชิ และ ชิซูโอกะ

  6. จังหวัดใดที่มีชื่อเสียงด้านอาหารทะเล? หลายจังหวัดมีชื่อเสียงด้านอาหารทะเล เช่น ฮอกไกโด โทยามะ ฟุกุโอกะ และโอกินาวะ

  7. จังหวัดใดที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อน? จังหวัดโออิตะ (เบปปุ, ยุฟุอิน) กุนมะ (คุซัตสึ) และฮอกไกโด เป็นที่รู้จักดีเรื่องบ่อน้ำพุร้อน

  8. การเดินทางระหว่างจังหวัดในญี่ปุ่นสะดวกหรือไม่? สะดวกมาก ญี่ปุ่นมีระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูง ทั้งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น รถไฟท้องถิ่น และรถบัส

  9. ควรเยี่ยมชมกี่จังหวัดในการเดินทางครั้งเดียว? ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความสนใจ หากมีเวลาน้อย ควรเน้นไปที่ 1-2 ภูมิภาค แต่หากมีเวลามาก ก็สามารถสำรวจได้หลายจังหวัด

  10. แต่ละจังหวัดมีภาษาถิ่นที่แตกต่างกันหรือไม่? ใช่ แต่ละภูมิภาคและจังหวัดอาจมีสำเนียงหรือคำศัพท์ท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป (ภาษาถิ่น หรือ 方言 - Hōgen) แต่ภาษาญี่ปุ่นมาตรฐาน (標準語 - Hyōjungo) ก็ใช้กันทั่วประเทศ

  11. จังหวัดใดที่เหมาะกับการท่องเที่ยวธรรมชาติ? ฮอกไกโด นางาโนะ กิฟุ และโทโฮคุ เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้รักธรรมชาติ

  12. จังหวัดใดที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม? เกียวโต นารา คามาคุระ (คานางาวะ) และฮิโรชิม่า เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม


การเดินทางสู่ญี่ปุ่น: วางแผนท่องเที่ยวกับ "ทัวร์ญี่ปุ่น"

เมื่อคุณเข้าใจถึงความหลากหลายของ 47 จังหวัดในญี่ปุ่นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเริ่มต้นวางแผนการเดินทางของคุณ การสำรวจดินแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้จะง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น หากคุณเลือกใช้บริการ ทัวร์ญี่ปุ่น ที่จะช่วยดูแลทุกรายละเอียดตั้งแต่การเดินทาง ที่พัก ไปจนถึงโปรแกรมท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดที่คุณสนใจ

หากคุณกำลังมองหาแพ็กเกจทัวร์ที่ครบวงจรและตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวชมเมืองใหญ่ สัมผัสธรรมชาติอันงดงาม หรือดื่มด่ำวัฒนธรรมท้องถิ่น คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมได้ที่ ทัวร์ญี่ปุ่น ซึ่งมีตัวเลือกมากมายให้คุณได้เลือกสรร ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางคนเดียว คู่รัก หรือครอบครัว ก็พร้อมตอบโจทย์ให้ทริปญี่ปุ่นของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

หัวข้อน่าอ่าน